SSIP TSU พาส่องเทรนด์ธุรกิจปี 2025 ที่ผู้ประกอบการไทยต้องรู้: เปลี่ยนโลก เปลี่ยนธุรกิจ สู่ยุคแห่งนวัตกรรม

   1 ส.ค. 68  /   51

เทรนด์ธุรกิจปี 2025 ที่ผู้ประกอบการไทยต้องรู้: เปลี่ยนโลก เปลี่ยนธุรกิจ สู่ยุคแห่งนวัตกรรม

บทความโดย: อุทยานวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยทักษิณ (SSIP TSU)

ปี 2025 คือช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของเศรษฐกิจดิจิทัลหลังวิกฤตโควิด-19 และในยุคที่เทคโนโลยีล้ำหน้าแบบก้าวกระโดด ผู้ประกอบการไทยจึงไม่อาจดำเนินธุรกิจด้วยรูปแบบเดิมได้อีกต่อไป บทความนี้ขอชวนสำรวจ “5 เทรนด์ธุรกิจมาแรง” ที่จะกำหนดทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทยในอนาคตอันใกล้ พร้อมข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์สำหรับผู้ที่ต้องการปรับตัวและเติบโตอย่างยั่งยืน

 

1. ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ (Agentic AI)

AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ธุรกิจไทยในหลายอุตสาหกรรมเริ่มนำ AI มาใช้ในกระบวนการต่าง ๆ ตั้งแต่ การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า การบริหารจัดการซัพพลายเชน การตลาด ไปจนถึงการเขียนโปรแกรมและระบบสนับสนุนการตัดสินใจ โดยเฉพาะ “Agentic AI” ซึ่งสามารถตัดสินใจเองตามเงื่อนไขและเป้าหมายที่ตั้งไว้

ตัวอย่างการใช้งานในประเทศไทย

  1. แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใช้ AI แนะนำสินค้าแบบเรียลไทม์
  2. ธุรกิจ SME ที่ใช้ระบบ AI เขียนแผนธุรกิจหรือทำ BMC เบื้องต้น
  3. การนำ AI วิเคราะห์แนวโน้มยอดขายและพฤติกรรมผู้บริโภคในภูมิภาค

 

2. ธุรกิจสีเขียว (Green Tech & Climate Tech)

ความยั่งยืนไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็น เงื่อนไขของการอยู่รอด ธุรกิจที่มีแนวทางลดคาร์บอน ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือใช้พลังงานทางเลือก ได้รับความสนใจจากทั้งนักลงทุนและผู้บริโภค

เทคโนโลยีเด่นในกลุ่มนี้ ได้แก่:

  1. โซลาร์เซลล์ ระบบกักเก็บพลังงาน และการจัดการน้ำอย่างอัจฉริยะ
  2. การใช้วัสดุรีไซเคิลหรือไบโอพลาสติกในห่วงโซ่การผลิต
  3. Smart city และระบบขนส่งไฟฟ้า (EV) ในชุมชน
  4. นโยบายที่เกี่ยวข้อง:
  5. เศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green)
  6. Carbon Credit และการรายงาน ESG

 

3. ฟินเทค (FinTech) และบล็อกเชน (Blockchain & Web3)

การเงินดิจิทัลกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินออนไลน์ การกู้ยืมผ่านแพลตฟอร์ม (P2P Lending) หรือการใช้สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) เพื่อสร้างความโปร่งใส

แนวโน้มที่น่าจับตา:

  1. e-KYC และระบบ Know Your Customer ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
  2. DeFi (Decentralized Finance) ที่ให้ผู้ใช้เข้าถึงบริการทางการเงินโดยไม่ต้องผ่านธนาคาร
  3. โทเคนดิจิทัล (Digital Token) ที่ถูกใช้แทนหุ้นหรือสิทธิ์ในทรัพย์สิน

 

4. เทคโนโลยีเกษตรและอาหาร (AgriTech & FoodTech)

ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมที่มีศักยภาพสูง การนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมจึงเป็นทางออกที่ชาญฉลาด ทั้งในด้านการปลูก การเก็บเกี่ยว และการจำหน่าย โดยเฉพาะในรูปแบบที่ “ผู้บริโภคถึงมือผู้ผลิต”

นวัตกรรมเด่นในภาคนี้:

  1. IoT และเซนเซอร์วัดคุณภาพน้ำในฟาร์มปลา
  2. AI วิเคราะห์สภาพอากาศเพื่อวางแผนการเพาะปลูก
  3. การแปรรูปอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น plant-based food

 

5. เฮลท์เทคและสุขภาวะ (HealthTech & Wellnesspreneur)

กระแสรักสุขภาพ ยืดอายุ และความใส่ใจสุขภาพจิต ทำให้ธุรกิจด้านสุขภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรูปแบบออนไลน์ เช่น แอปดูแลสุขภาพ โค้ช AI โปรแกรมการนอน และคลินิกออนไลน์

แนวโน้มในตลาดนี้ ได้แก่:

  1. Telemedicine และระบบนัดหมายหมอออนไลน์
  2. ธุรกิจฟิตเนสเสมือน (Virtual Fitness)
  3. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ
  4. โปรแกรมฝึกสมาธิหรือสุขภาพจิตแบบ subscription

 

สรุป: โอกาสของผู้ประกอบการไทยในยุคเปลี่ยนผ่าน

ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานด้านนวัตกรรมที่พร้อมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนจากหน่วยงานอย่าง NIA, สวทช., หรืออุทยานวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยทักษิณ (SSIP TSU) สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องมีคือ ความกล้าในการปรับตัว ความรู้ทันเทคโนโลยี และการเชื่อมโยงทรัพยากรให้เกิดคุณค่าใหม่

ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ควรมองหาโมเดลธุรกิจที่สอดคล้องกับ 5 เทรนด์นี้ และพัฒนาให้ตอบโจทย์ความต้องการของ “โลกอนาคต” ที่กำลังเปลี่ยนเร็วและแรง

ช่องทางติดต่อของ SSIP TSU

Website : https://ssip.tsu.ac.th/

Fanpage : https://www.facebook.com/SSIPTSU

Line OA : https://lin.ee/quU4Nt1

Youtube : www.youtube.com/@SSIP_TSU

Tiktok : @ssiptsu

#ssip  #TSU  #อุทยานวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมสังคม #นวัตกรรม #สังคม  #มหาวิทยาลัยทักษิณ