Black Ribbon Top Left

SSIP TSU ร่วม พิธียกเสาเอก อาคารส่งเสริมผู้ประกอบการและนวัตกรรม ปักธงเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมภาคใต้ตอนบน

   6 ต.ค. 68  /   16

พิธียกเสาเอก “อาคารส่งเสริมผู้ประกอบการและนวัตกรรม” ปักธงเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมภาคใต้ตอนบน

วันนี้ (3 ต.ค.68) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นุกูล อินทระสังขา ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยทักษิณ และบุคลากร เข้าร่วมพิธียกเสาเอก “อาคารส่งเสริมผู้ประกอบการและนวัตกรรม” ของอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 1 ใน เครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคใต้

ศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เป็นประธานในพิธียกเสาเอก “อาคารส่งเสริมผู้ประกอบการและนวัตกรรม” เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นก่อสร้างอาคารแห่งใหม่ ที่จะเป็นศูนย์บ่มเพาะธุรกิจนวัตกรรม และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานความรู้ในระดับภูมิภาค

โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนุรักษ์ ถุงทอง ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะผู้บริหาร บุคลากร มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ นายเอกพงศ์ มุสิกะเจริญ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและประสานงานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กปว.) พร้อมคณะผู้บริหาร จากสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตัวแทนภาคเอกชน เครือข่ายมหาวิทยาลัยพันธมิตร และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก  ณ พื้นที่ก่อสร้างบริเวณทิศเหนือของอาคารอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

นายเอกพงศ์ มุสิกะเจริญ ผู้อำนวยการ (กปว.) เปิดเผยว่า อาคารส่งเสริมผู้ประกอบการและนวัตกรรมแห่งนี้ เริ่มต้นจากมติในที่ประชุมครม.สัญจร ณ จ.ระนอง โดยทาง ม.วลัยลักษณ์ ได้ยื่นของบประมาณเพื่อก่อสร้าง และตามนโยบายของ ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว.ที่ได้ให้ความสำคัญกับมหาวิทยาลัยในแต่ละพื้นที่ ให้ได้ใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยโครงสร้างพื้นฐานของอาคารแห่งนี้ จะเปิดให้บริการแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และระนอง

ผู้อำนวยการ กปว. กล่าวอีกว่า อาคารนี้เป็นอาคารหลังที่ 7 ของการดำเนินงานส่งเสริมการพัฒนาผู้ประกอบการด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ซึ่งมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ในฐานะมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของประเทศ มีผลงานวิจัยที่โดดเด่นและมีประโยชน์จำนวนมากที่สามารถเชื่อมโยงให้ผู้ประกอบการในพื้นที่เข้ามาใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยเหล่านั้นได้ อาคารแห่งนี้จึงเป็นพื้นที่หนึ่งที่ อว.อยากให้เกิดขึ้น

“ตอนนี้มีการสร้างอาคารไปแล้วเกือบทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้ง จ.เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา และนครราชสีมา นี่คือ เน็ตเวิร์ก ของเครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เนื่องในโอกาสวันดีของการยกเสาเอกวันนี้ และอีก 17 เดือนหลังจากนี้ผู้ประกอบการในพื้นที่จะได้ใช้ประโยชน์อาคารแห่งนี้ และขอเชิญชวนทั้งผู้ประกอบการ นักวิจัยและผู้สนใจ เข้ามาใช้บริการอาคารนี้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดตามงบประมาณที่รัฐบาลได้ลงทุนไว้” นายเอกพงศ์กล่าว

โครงการก่อสร้างอาคารส่งเสริมผู้ประกอบการและนวัตกรรมแห่งนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลจำนวน 313,101,700 บาท ในปีงบประมาณ 2567 โดยจะเป็นอาคารที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการวิจัย พัฒนา และแปลงองค์ความรู้สู่นวัตกรรมที่ใช้ได้จริง เชื่อมโยงกับผู้ประกอบการในพื้นที่ และสร้างผลกระทบเชิงบวกทั้งในระดับชุมชน ภูมิภาค และประเทศในระยะยาว โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2570