Mindset แบบไหนสำคัญที่สุดสำหรับผู้ประกอบการนวัตกรรมสังคม?

ในยุคที่ธุรกิจไม่ได้มีบทบาทเพียงการสร้างกำไร แต่ยังถูกคาดหวังให้เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาสังคมและสร้างประโยชน์เชิงบวกต่อส่วนรวม บทบาทของ “ผู้ประกอบการนวัตกรรมสังคม” จึงเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ

ผู้ประกอบการนวัตกรรมสังคม (Social Innovation Entrepreneur) คือผู้ที่นำความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยี ความเข้าใจเชิงสังคม และรูปแบบธุรกิจ มาพัฒนาทางออกเพื่อลดปัญหาและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้คน ตัวอย่างเช่นธุรกิจเพื่อชุมชน การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสด้านการศึกษา สุขภาพ หรืออาชีพให้กับกลุ่มเปราะบาง

คำถามสำคัญคือ ผู้ประกอบการที่ทำงานเพื่อสังคมเช่นนี้ จำเป็นต้องมี “Mindset แบบไหน” และอะไรคือชุดความคิดที่สำคัญที่สุด?

---

6 Mindset สำคัญที่ผู้ประกอบการนวัตกรรมสังคมควรมี

1) Purpose-Driven Mindset: ทำบนพื้นฐานความหมาย ไม่ใช่แค่ผลกำไร

ผู้ประกอบการนวัตกรรมสังคมไม่ได้เริ่มจากคำถามว่า “อะไรขายได้?” แต่เริ่มจากคำถามว่า “เรากำลังพยายามแก้ปัญหาอะไร และเพื่อใคร?”
เมื่อมีเป้าหมายที่ชัด การทำงานจะเต็มไปด้วยพลัง ความหมาย และความชัดเจนในการตัดสินใจ

---

2) Empathy Mindset: เข้าใจผู้คนอย่างแท้จริง

การแก้ปัญหาทางสังคมต้องเริ่มจากการฟังและทำความเข้าใจ ไม่ใช่การคิดแทน ผู้ประกอบการจึงต้องลงพื้นที่ สังเกตชีวิตจริง และออกแบบโซลูชันร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย สิ่งนี้ทำให้โครงการตอบโจทย์จริง เกิดการยอมรับ และสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมในชุมชนหรือกลุ่มผู้ใช้

---

3) Growth Mindset: เรียนรู้และพัฒนาจากประสบการณ์

เส้นทางของธุรกิจเพื่อสังคมมักเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอน และการทดลอง Growth Mindset ช่วยให้ผู้ประกอบการมองความผิดพลาดเป็นบทเรียน ปรับปรุงแนวคิด และเปิดโอกาสให้ตนเองเติบโตอยู่เสมอ

---

4) Collaboration Mindset: เชื่อมั่นในพลังร่วมมือ

ปัญหาสังคมส่วนใหญ่มีความซับซ้อนเกินกว่าที่องค์กรหรือบุคคลใดจะรับมือเพียงลำพัง ผู้ประกอบการนวัตกรรมสังคมจึงต้องเปิดใจทำงานร่วมกับชุมชน ภาครัฐ ภาคธุรกิจ นักวิจัย หรือองค์กรไม่แสวงกำไร การเชื่อมโยงเครือข่ายช่วยขยายผลและเพิ่มความยั่งยืนให้โครงการ

---

5) Resilience: ยืนหยัดเมื่อเจออุปสรรค

ระหว่างทางอาจพบกับความไม่เข้าใจ งบประมาณจำกัด หรือผลลัพธ์ที่ใช้เวลานานกว่าจะเห็น การมี Resilience ทำให้ผู้ประกอบการสามารถปรับตัว ลุกขึ้นใหม่ และเดินหน้าต่อได้ แม้สถานการณ์จะไม่เป็นไปตามแผน

---

6) Sustainability Mindset: คิดระยะยาวและมองให้ครบทุกมิติ

ความยั่งยืนหมายถึงการสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่ทำเพียงโครงการที่ดีในระยะสั้น แต่ต้องออกแบบให้ระบบสามารถดำเนินต่อได้แม้ไม่มีผู้ริเริ่มอยู่ตรงกลางตลอดเวลา

---

Mindset ที่สำคัญที่สุดคืออะไร?

หากต้องเลือกชุดความคิดที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ประกอบการนวัตกรรมสังคม คำตอบคือ

Empathy Mindset + Growth Mindset

Empathy ทำให้เรามุ่งไปสู่การแก้ปัญหาที่ถูกต้องและตอบโจทย์ความต้องการจริง ส่วน Growth Mindset ทำให้เรามีพลังในการทดลอง ปรับปรุง และเดินหน้าต่อแม้เจออุปสรรค

---

เช็คตัวเอง: คุณเข้าใกล้การเป็นผู้ประกอบการนวัตกรรมสังคมหรือยัง?

ลองตั้งคำถามกับตัวเอง

• เมื่อเจอปัญหาสังคม คุณแค่สังเกตหรือพยายามหาวิธีแก้?
• คุณเคยลงไปฟังเสียงของผู้ที่ได้รับผลกระทบจริงหรือยัง?
• เวลาล้มเหลว คุณหยุด หรือคุณเริ่มต้นใหม่ด้วยวิธีที่ดีขึ้น?
• คุณมองคนอื่นในระบบเป็นคู่แข่ง หรือเป็นผู้ร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลง?

หากคุณเริ่มคิดในทิศทางเหล่านี้ นั่นหมายความว่า คุณกำลังก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่มีบทบาทสำคัญต่อสังคม